นายคมสันฐ หัวเมืองลาด
ปริญญา : ศิลปกรรมศาสตรดุษฏีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชานาฏยศิลป์
วัน/เดือน/ปี ที่ได้รับปริญญา : ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๕๙
นายคมสันฐ หัวเมืองลาด
ปริญญา : ศิลปกรรมศาสตรดุษฏีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชานาฏยศิลป์
วัน/เดือน/ปี ที่ได้รับปริญญา : ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๕๙
ปริญญา : ปรัชญาดุษฏีบัณฑิตกิตติมศักดิ์สาขาวิชาสังคมศาสตร์เพื่อการศึกษา
วัน/เดือน/ปี ที่ถวายปริญญากิตติมศักดิ์ :๒๖ พฤษภาคม ๒๕๕๙
ชื่อ : สมเด็จพระพุทธชินวงศ์
นามเดิม : สมศักดิ์ ชูมาลัยวงศ์ ฉายา : อุปสมมหาเถระ
เกิด : วันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2484
สัญชาติ : ไทย ศาสนา : พุทธ
ที่อยู่ปัจจุบัน : วัดพิชยญาติการาม วรวิหาร (วัดพิชัยญาติ) เลขที่ ๓๒ ถนนสมเด็จเจ้าพระยา ซอย ๒ แขวงสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร ๑๐๖๐๐
สมณศักดิ์
พ.ศ. ๒๕๐๖ – พระศรีสุทธิพงศ์
พ.ศ. ๒๕๓๑ – พระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชปริยัติโมลี
พ.ศ. ๒๕๓๖ – พระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพปริยัติโมลี
พ.ศ. ๒๕๔๑ – พระราชาคณะชั้นธรรมที่ พระธรรมโมลี
พ.ศ. ๒๕๔๘ – เจ้าคณะรองชั้นหิรัณยบัฏที่ พระพรหมโมลี
พ.ศ. ๒๕๕๔ – สมเด็จพระราชาคณะชั้นสุพรรณบัฏที่ สมเด็จพระพุทธชินวงศ์
พ.ศ. ๒๕๕๖ – ได้รับถวายสมณศักดิ์ อัครมหาบัณฑิต ณ มหาศาสนวิมาน อุปปาตสัติเจดีย์ กรุงเนปิดอร์ โดย รัฐบาลสหภาพเมียนมาร์
ดูประวัติเพิ่มเติม : สมเด็จพระพุทธชินวงศ์
ชื่อ – สกุล: ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ลินดา เกณฑ์มา
หน่วยงานที่สังกัด : สาขาวิชาภาษาไทย ภาควิชามนุษยศาสตร์และศิลปกรรม คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา
ตำแหน่งวิชาการ/ชำนาญการ : ผู้ช่วยศาสตราจารย์ (สาขาวิชาภาษาไทย)
ตำแหน่งปัจจุบัน
การศึกษา
• ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต (ปร.ด.) สาขาวิชาการศึกษาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา
• การศึกษามหาบัณฑิต (กศ.ม.) สาขาวิชาภาษาและวรรณคดีไทย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร
• ศิลปศาสตรบัณฑิต (ศศ.บ.) สาขาวิชาภาษาไทย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
ลำดับที่ | เครื่องราชอิสริยาภรณ์ | วันที่ได้รับ |
1 | ต.ม. : ตริตาภรณ์มงกุฎไทย (112) | 5 ธ.ค. 2537 |
2 | ต.ช. : ตริตาภรณ์ช้างเผือก (104) | 5 ธ.ค. 2539 |
3 | ท.ม. : ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย (111) | 5 ธ.ค. 2541 |
4 | ท.ช. : ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก (103) | 5 ธ.ค. 2545 |
5 | ร.จ.พ. : เหรียญจักรพรรดิมาลา (117) | 5 ธ.ค. 2551 |
ข้อมูลด้านวิชาการ
มหาวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
มหาวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร
มหาวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา
ผลงานด้านวิชาการและงานวิจัย
เอกสารประกอบการสอน
____________. (2550). ภาษาไทยเพื่อการเรียนรู้และการจัดการความรู้ (Thai for Learning and Knowledge Management) ผู้เขียนร่วม. (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์สหธรรมมิกจำกัด
____________. (2551). ภาษาไทยธุรกิจ (Usage of Thai Language in Business). กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัย ราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา.
____________. (2552). การฟังและการพูดเพื่อสัมฤทธิผล (Listening and Speaking for Achievement). กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์สหธรรมมิกจำกัด
____________. (2561). วาทศาสตร์ (Rhetoric). กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์สหธรรมมิกจำกัด
งานวิจัย
____________. (2550). ศักยภาพของการเป็นชุมชนเข้มแข็ง กรณีศึกษาหมู่บ้านป่าสัก ตำบลดาวเรือง
อำเภอเมือง จังหวัดสระบุรี. กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา.
____________. (2552). การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนที่ใช้วิธีการเรียนรู้ด้วยการรับใช้สังคมเพื่อส่งเสริม จิตสำนึกต่อการส่วนร่วมในสังคม สำหรับนิสิตระดับปริญญาตรี. กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จ
เจ้าพระยา.
____________. (2553). การวิจัยและพัฒนาหลักสูตรภาษาและวัฒนธรรมไทยสำหรับคนไทยในต่างประเทศ (วิจัยร่วม). กรุงเทพฯ : กระทรวงวัฒนธรรม.
____________. (2555). การศึกษาการจัดการเรียนการสอนวิชาศึกษาทั่วไป มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จ เจ้าพระยา (วิจัยร่วม). กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา.
____________. (2560). รูปแบบการมีส่วนร่วมของสถาบันอุดมศึกษาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น ในการจัดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ (วิจัย). กรุงเทพฯ : สถาบันการสร้างชาติ (NBI).
____________. (2560).รูปแบบการจัดการศึกษาตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของคณาจารย์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา. (วิจัยร่วม). กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา.
____________. (2561). ภาพสะท้อนความรุนแรงในครอบครัวจากละครโทรทัศน์ไทยช่วงปี 2559 – 2560 (วิจัย). กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา.
____________. (2562). การประเมินโครงการส่งเสริมความรักความสามัคคี ความมีระเบียบวินัยเข้าใจสิทธิหน้าที่ของตนเองและผู้อื่น. กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา.
การศึกษาดูงานต่างประเทศ อาทิ
ตอนที่ ๓ ตำแหน่งและผลสำเร็จการศึกษาด้านบริหาร
การบริหารงานอุดมศึกษา ในตำแหน่ง อธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ระหว่างปี พ.ศ. ๒๕๕๘ – ๒๕๖๒ โดยแบ่งการบริหารงานออกเป็นด้านต่างๆ ได้แก่ ๑) ด้านการบริหารจัดการ ๒) ด้านการพัฒนาบุคลากร ๓) ด้านคุณภาพบัณฑิต ๔) ด้านเครือข่ายความร่วมมือ และ ๕) ด้านการบริหารงานด้านอื่นๆ
๒. ด้านการพัฒนาบุคลากร
๓. ด้านคุณภาพบัณฑิต
๔. ด้านเครือข่ายความร่วมมือ
๕. ด้านการบริหารงานอื่นๆ
พ.ศ. ๒๕๕๙ เป็นเจ้าภาพการจัดงาน เนื่องในวัน “ครบรอบ ๑๒๔ ปี การสถาปนาการฝึกหัดครูไทย และคล้ายวันสถาปนากรมการฝึกหัดครู”
พ.ศ. ๒๕๖๐ เป็นเจ้าภาพการจัดงาน ต้อนรับ พลเอกดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ องคมนตรี ในการเข้าตรวจเยี่ยม และติดตามการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยราชภัฏกลุ่มกรุงเทพมหานคร เพื่อติดตามการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏ เพื่อการพัฒนาท้องถิ่น การผลิต และพัฒนาครู
พ.ศ. ๒๕๖๑ – ๒๕๖๒ เป็นคณะกรรมการกลุ่มร่างยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ระยะ ๒๐ ปี ด้านการพัฒนาคุณภาพการศึกษา
พ.ศ. ๒๕๖๒ เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมวางแผนการดำเนินงาน เครือข่ายความร่วมมือ ระหว่าง มหาวิทยาลัยราชภัฏ กลุ่มกรุงเทพฯ และกรุงเทพมหานคร
พ.ศ. ๒๕๖๒ เป็นเจ้าภาพ และทำโคงการจิตอาสา “เฉลิมพระเกียรติ ทำดีด้วยหัวใจ” เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ครบ ๖๗ ปี พรรษา พระบามสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณฯ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏกลุ่มกรุงเทพฯ และกรุงเทพมหานคร
พ.ศ. ๒๕๕๘ – ๒๕๖๑ จัดงานคืนสู่เหย้า “สานสายใยรวมใจลูกสุริยะ” เพื่อประกาศยกย่อง ศิษย์เก่าดีเด่น และสร้าง/ขยายเครือข่ายศิษย์เก่าให้กว้างขวางอย่างต่อเนื่องทุกปี
พ.ศ.๒๘๘๕ – ๒๕๖๒ มอบทุนการศึกษาให้นักเรียน นักศึกษาทุกปี ปีละ ๒๐๐,๐๐๐ – ๓๐๐,๐๐๐ บาท และเป็นตัวแทนศิษย์เก่าบริจาคเงินและร่วมงานการกุศล ตลอดจนเผยแพร่ชื่อเสียงให้แก่สมาคมฯ อย่างต่อเนื่อง
ประสานสัมพันธ์ เครือข่ายศิษย์เก่า และประชุมคณะกรรมการการบริหารสมาคมฯ เพื่อวางแผนการดำเนินกิจการสมาคมอย่างต่อเนื่อง อย่างน้อยปีละ ๖ ครั้ง
เป็นเจ้าภาพจัดการประกวดสุนทรพจน์อุดมศึกษาทั่วประเทศ ครั้งที่ ๑๘ ประจำปี ๒๕๖๐ ชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รอบคัดเลือก ระดับภูมิภาค (กรุงเทพมหานคร) ร่วมกับสมาคมศิษย์เก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์
ร่วมประชุมวางแผนและให้ข้อเสนอแนะนวทางการดำเนินงานด้านการศึกษาอย่างน้อยปีละ ๘ ครั้ง ตอนที่ ๔ วิสัยทัศน์ นโยบาย และยุทธศาสตร์ในการบริหารและพัฒนามหาวิทยา และการตั้งเป้าหมายของแต่ละบุคคลในองศ์กรให้สอดคล้องร่วมกัน (Objectives and Key Results : OKR)
เปิดแผนการขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยสู่การเป็น SMART University
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ลินดา เกณฑมา อธิการบดี
มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยาได้มีการพัฒนา ทบทวน และปรับปรุงแผนเพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของสังคมในโลกยุคดิจิตอลอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันได้มีการปรับวิสัยทัศน์ นโยบาย และทำแผนยุทธศาสตร์ให้ครอบคลุมทุกมิติมากยิ่งขึ้น เพื่อนำพามหาวิทยาลัยก้าวสู่การเปลี่ยนแปลงได้อย่างมั่นคง เน้นการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนในอนาคตบนเส้นทางการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ และศักยภาพที่โดดเด่นของมหาวิทยาลัย ด้วยการกำหนดวิสัยทัศน์ (Vision) ที่ว่า “มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยาเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำแห่งการเรียนรู้ในด้านการผลิตพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา การดนตรี อุตสาหกรรมบริการ และวิทยาศาสตร์สุขภาพ ที่มีคุณภาพได้มาตรฐานสากล”
หลักการสำคัญที่นำมากำหนดเป็นนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ของมหาวิทยาลัยในช่วง ๒๕๕๗-ปัจจุบัน (๒๕๖๔) ได้แก่การวิเคราะห์กรอบแผนยุทธศาสตร์ของชาติระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560-2579) แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2579 แผนยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น ระยะ 20 ปี แผนด้านการอุดมศึกษาเพื่อผลิตและพัฒนากำลังคนของประเทศ พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๗๐ พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ. ๒๕๔๗ พระราชบัญญัติการอุดมศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๒ และ กฎกระทรวงการจัดกลุ่มสถาบันอุดมศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๔ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การทบทวนและน้อมนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษาในพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช
สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงเน้นให้สถาบันราชภัฏทำหน้าที่เป็นสถาบันการศึกษาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นอย่างเป็นรูปธรรม
เป้าหมายหลักของแผนคือ การมุ่งพัฒนามหาวิทยาไปสู่การเป็นมหาวิทยาลัยแห่งคุณภาพ (SMART University) 3 ประการ ได้แก่ SMART university SMART instructor และ SMART Leaner ซึ่งหมายถึง 1. การเป็นมหาวิทยาลัยแห่งคุณภาพ 2. การมีบุคลากรที่มีศักยภาพสูง และ 3. การสร้างบัณฑิตที่มีอัตลักษณ์เหมาะสมแห่งยุคศตวรรษที่ 21 ทั้งนี้ ภารกิจสำคัญที่เกี่ยวข้องมุ่งให้เกิดความ SMART ไม่ว่าจะเป็น หลักสูตร สภาพความเป็นอยู่ สถานที่ ห้องเรียน คณาจารย์และบุคลากร การจัดการเรียนการสอน เครื่องมืออุปกรณ์การสอน ระบบการให้บริการ เทคโนโลยี รวมถึงนักศึกษา การดำเนินโครงการและกิจกรรมต้องมีการกำหนดเป็นเป้าหมายที่ชัดเจน (Specific) สามารถวัดผลได้ (Measurable) อยู่ในวิสัยที่สามารถทำได้ (Achievable) สอดรับกันทั้งมหาวิทยาลัย (Relevant) และมีกรอบเวลาที่กำหนดไว้ (Time-bound) อย่างชัดเจน
แนวคิดในทำงานคือ “การสืบสานงานเดิม ส่งเสริมงานใหม่ สร้างความมั่นใจสู่การเป็นมหาวิทยาลัยแห่งอนาคตที่มีคุณภาพ” งานเดิม ได้แก่ งานตามแผนยุทธศาสตร์ของการเป็นมหาวิทยาลัยราชภัฏ ที่มุ่งเน้นการปฏิบัติภารกิจนำศาสตร์หรือองค์ความรู้ที่มีสู่การพัฒนาท้องถิ่น และการน้อมนำพระบรมราโชบายของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณบดินทรเทพยวรางกูร ที่ทรงมุ่งหมายให้การศึกษาสร้างคนไทยให้มีคุณลักษณะ
4 ประการ มาปฏิบัติให้ปรากฏผลอย่างเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น งานใหม่ ได้แก่ งานปฏิรูปยกระดับมหาวิทยาลัยให้เป็นสถาบันอุดมศึกษาที่ทำหน้าที่สร้างบัณฑิต สร้างวิจัย และสร้างนวัตกรรม ให้สอดคล้องกับบทบาทของการเป็นสถาบันอุดมศึกษาภายใต้เศรษฐกิจกระแสใหม่ ในยุค Thailand 4.0 ตามนโยบายของภาครัฐ
นโยบายและแผนยุทธศาสตร์เพื่อนำพามหาวิทยาลัยไปสู่การเป็นการเป็น SMART University ประกอบไปด้วย นโยบาย 5 ยก ได้แก่ 1. ยกระดับคุณภาพการศึกษาของ บัณฑิตอย่างมืออาชีพ (Professional Learning) 2. ยกระดับการสร้างองค์ความรู้/วิจัย (Area-based Research) 3. ยกระดับการบริการและพัฒนาท้องถิ่น (Local Development) 4. ยกระดับการเป็นผู้นำด้านศิลปวัฒนธรรม (Cultural Preservation) และ
5. ยกระดับการบริหารจัดการมหาวิทยาลัยยุคใหม่ (Modern Management) โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างบัณฑิตให้สมบูรณ์ทั้งด้านความรู้ ทักษะวิชาชีพ ทักษะทางสังคม และทักษะในยุคศตวรรษที่ 21 โดยมีผลลัพธ์ที่คาดหวังคือ การสร้างพลเมืองที่เป็นผู้ใฝ่เรียนรู้ (Learner Person) ผู้ร่วมสร้างสรรค์นวัตกรรม (Innovative Co-Creator ) และ พลเมืองที่เข้มแข็งเพื่อสันติสุขของสังคม (Active Citizen)
นโยบายและแนวทางในการดำเนินงานในแต่ละด้านมีรายละเอียดโดยสรุป ดังนี้
ด้านที่ 1. การยกระดับคุณภาพการศึกษาของบัณฑิต อย่างมืออาชีพ (Professional Learning) เป้าหมายด้านนี้คือการสร้าง SMART Student , Learner หรือ บัณฑิตที่สมบูรณ์พร้อมด้วยศาสตร์ ศิลป์ และคุณธรรม และมีอัตลักษณ์เฉพาะของมหาวิทยาลัย ที่เน้นการสร้างบัณฑิต ให้มี จิตสาธารณะ ทักษะสื่อสาร การใช้เทคโนโลยี มีความเป็นไทย มีวินัยและเข้าใจหลักสากล และพร้อมด้วยคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของพลเมืองในยุคศตวรรษที่ 21 โดยใช้แนวคิด 4 ป. ได้แก่ ปรับ เปลี่ยน ปลด และเปิด
ปรับ 1 ปรับเพิ่มหลักสูตรความเป็นเลิศ หรือหลักสูตรโดดเด่นที่สอดรับกับศักยภาพของมหาวิทยาลัยทุกระดับ ในรูปแบบที่หลากหลายและเข้าถึงกลุ่มผู้เรียนได้มากขึ้น อาทิ หลักสูตรนานาชาติ หลักสูตรความร่วมมือลักษณะ Dual Study Program หลักสูตรบูรณาการศาสตร์ และ หลักสูตรฝึกทักษะระยะสั้นเพื่อการ Up-Skill, Re-Skill, New-Skill ตลอดจนการส่งเสริมการสร้างหลักสูตร MOOCs ที่ผู้เรียนสามารถนำมาเทียบโอนหน่วยกิตได้
ปรับ 2 ปรับ ลด ยุบ ควบรวมหลักสูตรที่ล้าสมัยที่ไม่สามารถผลิตบัณฑิตให้จบออกไปประกอบอาชีพที่สอดรับกับความต้องการของสังคมได้ เนื่องจากปัจจุบันมีผู้ประกอบการมีความจำเป็นต้องใช้ทักษะกำลังคนที่มีความสามารถหรือทักษะใหม่จำนวนเพิ่มมากขึ้น
ปรับ 3 ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน สิ่งเอื้ออำนวยความสะดวก สภาพแวดล้อม และปรับภูมิทัศน์ ปรับเสริมเพิ่มเติมอาคาร สถานที่ ห้องปฏิบัติการ ให้เหมาะสมกับแนวคิดการจัดการศึกษาในยุคดิจิตัลที่เน้นการนำเข้าเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการศึกษาและทักษะใหม่เพื่อการยกระดับคุณภาพของหลักสูตร และการเรียนการสอนให้น่าสนใจและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ปรับ 4 ปรับศักยภาพอาจารย์และบุคลากรให้มีความรู้และทักษะความเชี่ยวชาญรองรับภาระงานและหลักสูตรใหม่ๆ ส่งเสริมให้อาจารย์สร้างสรรค์นวัตกรรม พัฒนาทักษะการใช้สื่อและเทคโนโลยีดิจิตัลที่ทันสมัย เพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับผู้เรียนให้มากขึ้น
เปลี่ยน 1. เปลี่ยนรูปแบบกระบวนการเรียนการสอนในทุกหลักสูตรให้ได้คุณภาพและมาตรฐานสากล เน้นความทันสมัยและยืดหยุ่นสอดคล้องกับบริบทที่เปลี่ยนไป กำหนดให้สอนแบบ Active Learning เน้นการเรียนรู้จากประสบการณ์จริง อาทิ การเรียนรู้การทำงานในลักษณะบูรณาการ (Work Integrated Learning) สหกิจศึกษา (Co-operative Education) และ การเรียนรู้ด้วยการให้บริการสังคม (Service Learning) เน้นรูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้ประโยชน์จากสื่อออนไลน์ (Massive Open Courses : MOOCs) ให้มากขึ้น
เปลี่ยน 2. เปลี่ยนแนวคิดหรือวิธีการทำงานที่คุ้นเคยกับการใช้เฉพาะอาจารย์และบุคลากรในหลักสูตรเท่านั้น มาเป็นการเน้นความร่วมมือกับผู้ประกอบการที่เชี่ยวชาญ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ และการแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันการการศึกษาในเครือข่ายความร่วมมือทั้งภายในและภายนอกประเทศเพื่อสร้างความ SMART และสร้างมูลค่าเพิ่มให้บัณฑิตแตกต่างจากที่อื่น
ปลด 1. ปลดล็อคอุปสรรคระหว่างคณะ หน่วยงาน และองค์กรเครือข่ายความร่วมมือ เพื่อใช้ประโยชน์จากเครือข่ายระหว่างมหาวิทยาลัย และองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน ด้วยการแก้ไขประกาศ ระเบียบ หรือข้อบังคับที่ไม่เอื้อต่อการปฏิบัติงานในเชิงรุกและพัฒนาเพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้รวดเร็ว และสะดวกมากยิ่งขึ้น แต่ยังคงไว้ซึ่งความถูกต้องและประสิทธิภาพประสิทธิผลด้านการใช้จ่ายงบประมาณให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม อาทิ ระเบียบการเทียบโอนหน่วยกิต Credit Bank / Co-operative Learning ข้อบังคับเรื่องภาระงาน และข้อบังคับการจัดการศึกษา ที่ไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลง เป็นต้น
เปิด 1 เปิดโอกาสแห่งการเรียนรู้ให้ผู้เรียนทุกช่วงวัยให้มีโอกาสเรียนรู้โดยไม่มีข้อจำกัด สามารถเรียนรู้ได้หลายช่องทางมากขึ้น ทั้งการเรียนในระบบเพื่อเป้าหมายใบปริญญาบัตร และการเรียนนอกระบบที่ผู้เรียนมุ่งพัฒนาความรู้ ความเชี่ยวชาญและทักษะเฉพาะด้านเพื่อเพิ่มศักยภาพในการงานทำงาน โดยเพิ่มช่องทางการเรียนรู้ผ่านระบบดิจิตัลที่ทันสมัย
เปิด 2. เปิดโลกทัศน์เพื่อสร้างกระบวนทัศน์ใหม่ในการทำงานของคณาจารย์และบุคลากร โดยมุ่งเน้นการจัดการศึกษาและการบริหารงานยุคใหม่ ที่นำระบบดิจิตอลและนำข้อมูลเข้ามาใช้ในการทำงาน
การจัดการเรียนการสอน การตัดสินใจและอำนวยความสะดวกมากขึ้น
เปิด 3. เปิดแนวคิดการสร้างกลไกในการขับเคลื่อนงานแบบจตุรภาคี (Quadruple Helix) เน้นการผนึกกำลังทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐ เอกชน ชุมชน สังคม และมหาวิทยาลัยในการยกระดับคุณภาพการศึกษา โดยเปิดกว้างขยายรับเครือข่ายความร่วมมือทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ด้านที่ 2 การยกระดับการสร้างองค์ความรู้และการสร้างงานวิจัย (Area-based Research) มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา เป็นมหาวิทยาลัยที่ประเมินตนเองอยู่ในกลุ่ม ที่ 3 หรือกลุ่มพัฒนาชุมชนท้องถิ่นหรือชุมชนอื่น ตามกฎกระทรวงการจัดกลุ่มสถาบัน ซึ่งหมายถึงมหาวิทยาลัยตอบโจทย์เชิงพื้นที่ (ตาม พรบ. 2547) ทิศทางของงานวิจัยจึงมุ่งเน้นไปที่งานวิจัยเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ พัฒนาคุณภาพชีวิต และสิ่งแวดล้อมของประชนในท้องถิ่น เป้าหมายของนโยบายด้านนี้คือ การสร้างงานวิจัยที่ได้มาตรฐานสากล ชุมชนได้รับการพัฒนา มหาวิทยาลัยเป็นที่ยอมรับ ยกระดับคุณภาพทุกมิติ แนวทางที่สำคัญของการดำเนินงานด้านนี้ได้แก่
1. ส่งเสริมและสร้างนักวิจัยระดับสูงให้มีในทุกหลักสูตรด้วยระบบพี่เลี้ยง (Mentor in Residence)
ตั้งคณะกรรมการให้คำปรึกษาอย่างครบวงจร เน้นการทำวิทยานิพนธ์ในระดับบัณฑิตศึกษา และส่งเสริมการบูรณาการงานวิจัยกับการเรียนการสอนให้มากขึ้น
2. ส่งเสริม สนับสนุนให้มีการรวมกลุ่มอาจารย์ทำวิจัยเชิงพื้นที่ในลักษณะการบูรณาการระหว่างศาสตร์เพื่อให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ในรูปโครงการความร่วมมือวิจัย มีการกำหนดพื้นที่เป้าหมายศึกษาและหาข้อมูล (Area-Based) ปรับทิศทางการสร้างงานวิจัยเชิงระบบที่สอดรับกับศักยภาพ สามารถนำไปแก้ปัญหา หรือพัฒนาชุมชนและท้องถิ่นได้อย่างแท้จริง
3. ดำเนินการวิจัยร่วมกับหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ซึ่งเป็นแหล่งทุนสนับสนุน (Sources of Funding ) ทั้งในรูปแบบทุนระยะยาว (Multiyear) และระยะสั้น เน้นดำเนินการวิจัยร่วมกับภาคีเครือข่าย
จตุรภาคีทุกภาคส่วน และส่งเสริมสนับสนุนให้แปลงงานวิจัยเป็นนวัตกรรม เพื่อนำสู่การพัฒนาและเปลี่ยนแปลงท้องถิ่นอย่างเป็นรูปธรรม
4 พัฒนาฐานข้อมูล การจัดเก็บ การจดลิขสิทธิ์ การจดสิทธิบัตร และทรัพย์สินทางปัญญา และการนำทรัพย์สินทางปัญญาไปใช้ให้เกิดประโยชน์เชิงพาณิชย์ การเผยแพร่ผลงาน ตลอดจนการร่วมมือกับเครือข่ายมหาวิทยาลัยชั้นนำทั้งในและต่างประเทศจัดเวทีนำเสนอผลงาน สร้างฐานข้อมูลของมหาวิทยาลัยให้เชื่อมโยงกับฐานข้อมูลขนาดใหญ่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นแหล่งข้อมูลด้านคลังปัญญา
ด้านที่ 3 การยกระดับการบริการวิชาการและการพัฒนาท้องถิ่น (Local Development) มุ่งการบริการวิชาการทั้งในรูปแบบให้เปล่า และแบบสร้างรายได้ ด้วยการบูรณาการองค์ความรู้ในศาสตร์ทุกหลักสูตร กำหนดให้อาจารย์ใช้ท้องถิ่นเป็นห้องเรียนและห้องฝึกปฏิบัติการเรียนรู้จากสถานการณ์จริงให้แก่นักศึกษา เน้นการร่วมมือกันกับชุมชนสร้างสรรค์นวัตกรรมชุมชน นวัตกรรมมวลชน และนวัตกรรมแก้จน จากงานวิจัย โดยมีเป้าหมายเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ตามแนวคิด SEP for SDG : Sufficiency Economy Philosophy for Sustainable Development Goals ซึ่งในแต่ละปี มหาวิทยาลัยได้นำเสนอแผนเพื่อขอรับการจัดสรรงบประมาณ ปีละไม่น้อยกว่า 30 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการตามแผนยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาท้องถิ่น ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาและการบริการวิชาการลงสู่ท้องถิ่น ในการแก้ปัญหาการศึกษา เศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม ในพื้นที่รับผิดชอบ ใน กรุงเทพมหานคร 16 เขต และในต่างจังหวัด 2 แห่งได้แก่ จังหวัดสมุทรสาคร และ จังหวัดสุพรรณบุรี โดยยึดแนวทางการทำงาน 3 ขั้นตอน ได้แก่ การเข้าถึงมวลชน ( Bottom up) ร่วมคิดค้นโครงการ (Top down) และ ประสานเครือข่ายนักพัฒนา (Relationship)
ด้านที่ 4 การยกระดับการเป็นผู้นำด้านอนุรักษ์ พัฒนาศิลปวัฒนธรรม และภูมิปัญญาไทย (Cultural Preservation) นโยบายด้านนี้ มีเป้าหมายเพื่อให้ชุมชนและท้องถิ่น คิดค้นนวัตกรรมด้วยการใช้รากฐานทางวัฒนธรรมนำสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy ) แนวทางการดำเนินงานได้แก่
1. ส่งเสริมการสร้างหลักสูตร การจัดโครงการ กิจกรรม งานวิจัย และนวัตกรรมด้านศิลปวัฒนธรรม เพื่อสร้างบัณฑิตให้มีความภูมิใจในความเป็นไทย มีความรักในศิลปวัฒนธรรมไทย
2. ส่งเสริมให้เกิดการใช้ประโยชน์จากความโดดเด่นด้านความเป็นผู้นำด้านการแสดงศิลปวัฒนธรรม และด้านการดนตรีเน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นที่มีอยู่เดิม และเพิ่มแหล่งเรียนรู้ด้านศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทยที่ทันสมัยและหลากหลายช่องทางมากยิ่งขึ้น
3. ส่งเสริมสนับสนุนให้มีการบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วนทั้งในและต่างประเทศเพื่อร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เพิ่มมูลค่าทางวัฒนธรรมเพื่อสร้างความมั่งคั่งให้ท้องถิ่น ด้วยการนำองค์ความรู้และนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องไปให้บริการได้อย่างเป็นรูปธรรม
ด้านที่ 5 การยกระดับการบริหารจัดการมหาวิทยาลัยยุคใหม่ (Modern Management) เป้าหมายคือการสร้างมหาวิทยาลัยให้เป็น SMART University ด้วยหลักธรรมาภิบาล แนวทางสำคัญที่ต้องเร่งยกระดับด้านนี้ 3 เรื่อง ได้แก่
1 ด้านปัจจัยพื้นฐาน 3 ประการได้แก่ การบริหารจัดการ งบประมาณ ได้นำแนวคิด งด ลด ยกเลิก และทบทวน เข้ามาใช้ในการวางแผนการใช้จ่ายให้เพียงพอตามภารกิจให้เกิดประสิทธิภาพประสิทธิผลสูงสุด การวางแผนจัดหารายได้จากความ โดดเด่น และศักยภาพของอาจารย์ ด้วยการดำเนินโครงการบริการวิชาการแบบมีรายได้จากงบบูรณาการของหน่วยงานภาครัฐ และการรับทำวิจัยจากแหล่งทุนสนับสนุนนภายนอก เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับมหาวิทยาลัยให้มากยิ่งขึ้น นำระบบดิจิตัลเข้ามาช่วย ควบคุม กำกับ ติดตาม ตรวจสอบการใช้งบประมาณอย่าง โปร่งใส การบริหารด้านบุคลากร เน้นการสร้างระบบคัดเลือกคนดี คนเก่ง การส่งเสริมพัฒนา การรักษาและสนับสนุนให้เกิดความก้าวหน้าในสายงาน การพัฒนากองทุนสวัสดิการให้เกิดความมั่นคง มั่งคั่ง
แก่บุคลากร และ ในส่วนของสภาพแวดล้อม เร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การจัดหาอาคาร สถานที่ ห้องปฏิบัติการ เครื่องมือสื่อการเรียนการสอน และสิ่งเอื้ออำนวยความสะดวกที่จำเป็น การปรับปรุงอาคารสถานที่ และปรับสภาพภูมิทัศน์ของมหาวิทยาลัยให้สะอาด ทันสมัย พร้อมต่อการใช้งาน ให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงในมิติต่างๆ ของการพัฒนา มีการนำระบบเทคโนโลยีและระบบดิจิตัลเข้ามาใช้ให้ครอบคลุมทุกภารกิจ เพื่อให้เป็น SMART University อย่างแท้จริง
2 การสร้างและขยายเครือข่ายความร่วมมือเพื่อการขับเคลื่อนในรูปแบบจตุรภาคี ปัจจุบันมหาวิทยาลัยมีเครือข่ายทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม ทั้งในและต่างประเทศ อยู่แล้วมากกว่า 100 เครือข่าย
มหาวิทยาลัยมุ่งเน้น การนำองค์กรเครือข่ายเข้ามาร่วมออกแบบหลักสูตรสัมมนาแลกเปลี่ยนทางวิชาการ ร่วมการทำวิจัย ประชุม และร่วมจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะ ยกระดับคุณภาพการศึกษาของมหาวิทยาลัยให้เข้มข้นมากขึ้น รวมถึง การจัดทำ Co-operative Education /Learning กับองค์กร และมหาวิทยาลัยที่มีศักยภาพโดดเด่นเพื่อสร้างความแตกต่าง และสร้างอัตลักษณ์ที่โดดเด่นของมหาวิทยาลัยได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น
3. การเร่งสร้างค่านิยมองค์กร MORALITY การสร้างความตระหนักให้บุคลากรยึดค่านิยมองค์กรให้ถือเป็นแนวปฏิบัติร่วมกันทั้งมหาวิทยาลัย เป็นสิ่งสำคัญที่จะสร้างองค์กรแห่งคุณภาพได้อย่างแท้จริง การเน้น
การบริหารจัดการด้วยหลักธรรมาภิบาล และเปิดโอกาสให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมในการดำเนินงาน มีการ ตรวจสอบ กำกับ ติดตาม ประเมินผล อย่างครอบคลุมทุกมิติ
จากที่กล่าวมาทั้งหมด เป็นแผนการทำงานที่เกิดจากนโยบายของอธิการบดี ที่ผู้บริหาร คณาจารย์และบุคลากรได้มีส่วนร่วมนำเป็นกรอบแนวคิดและจัดทำเป็นแผนยุทธศาสตร์สู่การปฏิบัติ ซึ่งในทุกรอบปีจะมีการประชุมสัมมนาทบทวนงานนโยบายเพื่อรับฟังข้อเสนอแนะจากผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายเพื่อปรับแผน ให้การดำเนินงานตามพันธกิจของมหาวิทยาลัยที่มุ่งเน้นการสร้างความเป็นเลิศและเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันบนพื้นฐานความเชี่ยวชาญของมหาวิทยาลัยบรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้ เชื่อได้ว่า การมุ่งมั่นทุ่มเท การร่วมมือร่วมใจสมัครสมานสามัคคี และความเป็นหนึ่งเดียวกันของสมาชิกในองค์กร จะเป็นพลังยิ่งใหญ่ที่จะสร้างให้มหาวิทยาลัยแห่งนี้ ให้เป็น “บ้านแห่งความสำเร็จ บ้านสมเด็จเจ้าพระยา” เป็น SMART University ได้อย่างแท้จริง
ตอนที่ ๕ เกียรติประวัติ ผลงานที่ภาคภูมิใจ การเป็นแบบอย่างที่ดีแก่สังคม
๑.๑ ปี พ.ศ. ๒๕๖๐ และ พ.ศ. ๒๕๖๑ มหาวิทยาลัยได้รับมอบโล่ประกาศยกย่องจากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะสถาบันอุดมศึกษาคะแนน สูงสุด ด้านคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (ITA)
๑.๒ ปี พ.ศ. ๒๕๖๐ มหาวิทยาลัยได้รับมอบโล่ประกาศเกียรติคุณจาก สมาคมศิษย์เก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในพระบรมราชูปถัมภ์ ในฐานะผู้ให้การสนับสนุนเป็นศูนย์จัดการประกวดสุนทรพจน์อุดมศึกษาเฉลิมพระเกียรติ รัชกาลที่ ๙ ระดับภูมิภาค
๑.๓ ปี พ.ศ. ๒๕๖๑ National Pingtung University ประเทศไต้หวัน มอบโล่ประกาศยกย่องให้มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยาในฐานะเครือข่ายความร่วมมือที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของ NPTU
๑.๔ ปี พ.ศ. ๒๕๖๑ มหาวิทยาลัยมหิดล โดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีมอบโล่ประกาศยกย่องให้แก่ มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ในฐานะให้ความร่วมมือรับเป็นเจ้าภาพจัดประชุมนำเสนองานวิชาการระดับนานาชาติ IS Thai Sim GA 2018 ประจำปี ๒๕๖๑
๑.๕ ปี พ.ศ. ๒๕๖๑ สถาบันขงจื้อมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยาได้รับมอบโล่รางวัลสถาบันขงจื้อยอดเยี่ยมระดับโลก จาก นางหมิว เหยียนตง รองประธานาธิบดี ในงานประชุมขงจื้อโลก ประจำปี ๒๕๖๑
๑.๖ ปี พ.ศ. ๒๕๖๑ สถาบันขงจื้อมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ได้รับมอบโล่ประกาศยกย่อง ศูนย์สอบวัดระดับภาษาจีนยอดเยี่ยมระดับชาติประจำปี ๒๕๖๑ จาก Tianjin normal university ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน โดย อธิการบดี เป็นผู้มอบ
๑.๗ ปี พ.ศ. ๒๕๖๑ มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยาได้รับพระราชทานโล่รางวัลจาก พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในฐานะมหาวิทยาลัยราชภัฏที่ชนะเลิศในการจัดพิธีพระราชทานปริญญาบัตรเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
๒. เกียรติประวัติส่วนตัวที่สร้างชื่อเสียงจนเป็นที่ยอมรับในสังคม
๒.๑ ปี พ.ศ. ๒๕๕๘ ได้รับมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ นักบริหารการศึกษาดีเด่น จากสมัชชานักจัดรายการข่าวฯ แห่งประเทศไทย (สว.นท) โดยนายอำพล เสนาณรงค์ องคมนตรีเป็นผู้มอบ
๒.๒ ปี พ.ศ. ๒๕๕๙ ได้รับมอบโล่ประกาศยกย่องศิษย์เก่าดีเด่นประจำปี มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา โดย ศาสตราจารย์นายแพทย์พยงค์ จูฑา นายกสภามหาวิทยาลัย เป็นผู้มอบ
๒.๓ ปี พ.ศ. ๒๕๕๙ ได้รับมอบโล่ประกาศยกย่อง สตรีตัวอย่างแห่งปี จากมูลนิธิ เพื่อสังคมไทย โดย พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี เป็นผู้มอบ
๒.๔ ปี พ.ศ. ๒๕๖๑ ได้รับมอบโล่ประกาศยกย่องให้เป็น นักบริการและพัฒนาองค์กรดีเด่นแห่งปี จากสถาบันพัฒนาศักยภาพท้องถิ่น โดย พลอากาศเอกชลิต พุกผาสุก องคมนตรี เป็นผู้มอบ
๒.๕ ปี พ.ศ. ๒๕๖๑ ได้รับมอบโล่ประกาศยกย่อง ผู้ให้การสนับสนุนและพัฒนาการศึกษาโรงเรียนในสังกัด สพป. เขตพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ปี ๒๕๖๑ โดย เลขาธิการ คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นผู้มอบ
๒.๕ ปี พ.ศ. ๒๕๖๒ ได้รับโล่ประกาศยกย่อง เป็นนักบริหารดีเด่นและสตรีตัวอย่างแห่งปี จากมูลนิธิเพื่อสังคมไทย โดย พลอากาศเอกชลิต พุกผาสุก องคมนตรี เป็นผู้มอบ
ปริญญาที่ได้รับ : ปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการบริหารการศึกษา
วัน/เดือน/ปี ที่ทูลเกล้าถวายปริญญากิตติมศักดิ์ : 21 พฤษภาคม 2558
นางสถาพร สนทอง
ปริญญา : ครุศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์
วัน/เดือน/ปี ที่ได้รับปริญญา : ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๕๗
ประวัติ ดร.พลสิทธิ์ หนูชูชัย
ศิษย์เก่า ป.กศ สูง พ.ศ. 2505
ปัจจุบัน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ภาควิชาภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
ประวัติการทำงาน
การศึกษา
นายโมฮำหมัด มุสตาฟา บิน อิซัค
ปริญญา : ปรัชญาดุษฏีบัณฑิตกิตติมศักดิ์สาขาวิชาการบริหารการศึกษา
วัน/เดือน/ปี ที่ได้รับปริญญา : ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕
Dr.Jose Sulaiman chignon
ปริญญา : ปรัชญาดุษฏีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการจัดการเทคโนโลยี
วัน/เดือน/ปี ที่ได้รับปริญญา : ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๓
วัน เดือน ปีเกิด : 30 พฤษภาคม 1931
สถานที่เกิด : Victoria, Tarnaulipas, Mexico
สถานภาพ : สมรส มีบุตร 6 คน
ตําแหน่ง :
ประธานสหพันธ์มวยโลก (161 ประเทศ) ตั้งแต่ปี 1975
CEO ของสถาบันธุรกิจหลายแห่ง
ประธานสหพันธ์และพิพิธภัณฑ์แห่งการกีฬาแมกซิกัน ตั้งแต่ปี 1998
ผู้บริหารธุรกิจและกฎหมายธุรกิจ ดํารงตําแหน่งสําคัญในสถาบันการศึกษา Institute and Escuela Superior de Comercio,
ประวัติการศึกษา :
ปริญญาเอกกิตติมศักดิ์ สาขามนุษยศาสตร์ Newport University of California, Campus Mexico, 1997
ปริญญาเอกกิตติมศักดิ์ สาขามนุษยศาสตร์และปรัชญา London Institute of Technology & Research, 1998
ปริญญาเอกกิตติมศักดิ์ สาขาวัฒนธรรมทางวัตถุ Russian State Academy of Physical Culture, Moscow, 1999
ปริญญาเอกกิตติมศักดิ์ สาขามนุษยศาสตร์ฯ American Sports University, San Bernardio, California, 2008
รางวัลที่ได้รับ :
ได้รับรางวัลระดับนานาชาติกว่า 32 รางวัล อาทิ
– รางวัลด้านมนุษยชน จากกษัตริย์ฮวน คาลอส แห่งสเปน 1977
– เครื่องราชอิสริยาภรณ์ จาก รัชกาลที่ 9 แห่งประเทศไทย 1993
– รางวัลบุคคลแห่งปี ประเทศแมกซิโก 2001
– รางวัลเกียรติยศแห่งวงการกีฬา จากทั้งสหรัฐอเมริกา เม็กซิโก ประเทศไทย ลาตินอเมริกา แอฟริกาใต้
นอกจากนั้น ยังได้รับเกียรติจากประมุขของประเทศต่างๆ จํานวนมาก (เช่น ประเทศไทย อาร์เจนตินา สหรัฐอเมริกา แอฟริกาใต้ สเปน เม็กซิโก เลบานอน เนปาล ปานามา นิการากัว ตูนิเซีย เซเนกัล เกาหลี เวเนซุเอลา รัสเซีย โครเอเชีย) อาทิ
1. รัชกาลที่ 9 ประเทศไทย
2. Pope John Paul II
3. ประธานาธิบดีเรแกน สหรัฐอเมริกา
4. กษัตริย์ Juan Carlos ll สเปน
5. ประธานาธิบดี Giscard D’Estaing ฝรั่งเศส
คุณูปการในวงการมวยโลก :
ในฐานะผู้นําของสมาชิกจากทั่วโลกในสภามวยโลก ท่านได้ริเริ่มงานที่เป็นประโยชน์ อาทิ
– การประชุมการแพทย์โลกครั้งแรก จาก 83 ประเทศ และแพทย์กว่า 300 คน, 1997
– บริจาคเงินแก่ UCLA กว่า 1,000,000 ดอลล่าร์ เพื่อการวิจัยทางการแพทย์
– การริเริ่มรูปแบบการแข่งขันใหม่แก่วงการมวย อาทิ การลตรอบการชกจาก 15 ยก เป็น 12 ยก การกําหนดเกณฑ์การควบคุมน้ำหนักก่อนการแข่งขันใหม่ เพื่อป้องกันนักมวยจากการสูญเสีย น้ำหนักมากเกินไป และอาการขาดน้ำ
กิจกรรมที่ผ่านมาอื่นๆ :
ประธานขององค์กรต่างๆ อาทิ
– ประธานอนุกรรมการด้านสังคมของ UN ใน Tamaulipas
– ประธานลึกเบสบอล Tarnaulipas
– ที่ปรึกษากาชาดแห่ง Tamaulipas
– ศาสตราจารย์ด้านการบริหารธุรกิจ การบัญชี และกีฬา
– ประธานบริหารองค์กรด้านกีฬาต่างๆ
ดูประวัติเพิ่มเติม : Dr.Jose Sulaiman chignon
ดร.จอห์น เร็นเน่อร์
ปริญญา : ปรัชญาดุษฏีบัณฑิตกิตติมศักดิ์สาขาวิชาการจัดการนวัตกรรมและเทคโนโลยี
วัน/เดือน/ปี ที่ได้รับปริญญา : ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๓
ปริญญา : ปรัชญาดุษฏีบัณฑิตกิตติมศักดิ์สาขาวิชาการบริหารการศึกษา
วัน/เดือน/ปี ที่ถวายปริญญากิตติมศักดิ์ : ๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๓