Nguyễn Tấn Dũng

ฯพณฯ เหงี่ยน เติ๋น ชุง  

ปริญญา : ปรัชญาดุษฏีบัณฑิตกิตติมศักดิ์สาขาวิชาการศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่น 

วัน/เดือน/ปี ที่ได้รับปริญญา :  ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑ 

วัน เดือน ปี เกิด : 17 พฤศจิกายน ค.ศ. 1949

สถานที่เกิด : นคร Ca Mau แห่ง จังหวัด Ca Mau

สถานภาพทางครอบครัว : ได้สมรสกับคุณหญิง Tran Thanh Kicn1 มีบุตรชาย 2 คน และบุตรสาว 1 คน

ประวัติการศึกษา :

เนื่องจากได้เข้าร่วมสงครามต่อต้านรัฐบาลฝรั่งเศส และอเมริกา จึงไม่จบการศึกษาขั้นพื้นฐาน

ทฤษฎีการเมืองระดับสูง

Bachelor of Law

ประวัติการทํางาน

พ.ศ. 2504 : เข้าร่วมกองทัพทหารประชาชนเวียดนาม โดยรับมอบหน้าที่หลายอย่าง ผู้ติดต่อราชการ ผู้ช่วยแพทย์ทหาร พยาบาล

พ.ศ. 2510 : สมัครเป็นสมาชิกพรรคแรงงานเวียดนาม

พ.ศ. 2510-2517 : ปฏิบัติงานในกองทัพทหารประชาชนเวียดนาม

พ.ศ. 2518 : ได้ยศพันตรีและหัวหน้าสภาบุคลากรของกองบัญชาการในจังหวัดเคียนยาง

พ.ศ. 2524-2537 : ลาออกจากการเป็นทหารและเริ่มเข้าร่วมชีวิตการเมืองระดับท้องถิ่น : ดํารงตําแหน่งกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์ระดับจังหวัดเคียนยางประธานคณะกรรมการ ประชาชนจังหวัดเคียนยาง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเดียนยาง ตามลําดับ

พ.ศ. 2538-2539 : ดํารงตําแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทย : สมาชิกสํานักงานตํารวจแห่งชาติ : สมาชิกคณะกรรมการกลางของพรรค : สมาชิกกรมการเมือง

พ.ศ. 2539-2540 : ดํารงตําแหน่งผู้อํานวยการสํานักงานเศรษฐกิจแห่งชาติ โดยรับผิดชอบด้านการเงินของพรรคคอมมิวนิสต์

กันยายน พ.ศ. 2540 : สมาชิกสมัชชาของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามในการประชุมสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามครั้งที่ 10

พ.ศ. 2540 : ได้รับการแต่งตั้งเป็นรองนายกรัฐมนตรี

พ.ศ. 2541-2542 : ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ว่าธนาคารแห่งชาติ ตลอดเวลาที่นาย Nguyen Tan Dung ดํารงตําแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและผู้ว่าธนาคารแห่งชาติ ได้เกิดเหตุการณ์วิกฤต เศรษฐกิจอย่างรุนแรงทั่วเอเซียเวียดนามเป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศที่ได้รับผลกระทบไม่มาก นาย Nguyen Tan Dung ได้มีการเสนอแผนและนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาอย่าง เหมาะสมและมีประสิทธิภาพตามข้อพิจารณาของนานาประเทศ เพราะฉะนั้น นาย Nguyen Tan Dung ได้รับชมเชยยกย่องเป็นนักการเมืองพร้อมเป็น นักเศรษฐกิจชั้นนําของเวียดนาม

พ.ศ. 2543 : ดํารงตําแหน่งรองนายกรัฐมนตรีวาระที่ 2 ในการประชุมสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์ครั้งที่ 11

27 มิถุนายน 2549 : ในการประชุมสมัชชาของพรรคคอมมิวนิสต์เวียตนามครั้งที่ 12 นาย Nguyen Tan Dung ได้รับการเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีจากการลงคะแนนของสมัชชาแห่งขาติด้วยคะแนนเสียง ร้อยละ 96.96

ดูประวัติเพิ่มเติม : Nguyễn Tấn Dũng

ฯพณฯ บัวสอน บุบผาวัน

ฯพณฯ บัวสอน บุบผาวัน

ปริญญา : ปรัชญาดุษฏีบัณฑิตกิตติมศักดิ์สาขาวิชาการจัดการเทคโนโลยี 

วัน/เดือน/ปี ที่ได้รับปริญญา : ๑๙ มกราคม ๒๕๕๐ 

วันเกิด : วันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ.2497

บ้านเกิด : บ้านเตาปูน เมืองสาละวัน แขวงสาละวัน

บ้านอยู่ปัจจุบัน : บ้านวัดนาก เมืองสีสัตตะนาก นครหลวงเวียงจันทน์

สถานะครอบครัว : สมรสกับ นางสําลี ตวงมณี มีบุตรด้วยกัน 4 คน คือ ท้าววีแก้ว บุบผาวัน ท้าวสิทธิพร บุบผาวัน นางสุกพะลัก บุบผาวัน และนางจิตรกร บุบผาวัน

ประวัติการศึกษา

พ.ศ.2504 ถึง 2517 เข้าเรียนชั้นประถมที่แขวงสาละวัน จากนั้นย้ายมาเรียนชั้นมัธยมที่แขวงเชโดนซึ่งเป็น แขวงจําปาสักในปัจจุบัน

พ.ศ.2523 ศึกษาต่อที่ การุงมอสโคว แห่งสหภาพโซเวียต (โรงเรียนขั้นสูงของพรรคคอมมิวนิสต์สหภาพโซเวียต) และได้สําเร็จการศึกษาระดับ Master of Philaraphy ในปี 2533

ความรู้ด้านภาษาต่างประเทศ : ภาษารัสเซีย และ ภาษาฝรั่งเศส

ประวัติการทํางาน

– ในวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2517 เข้าทําการปฏิวัติ

– พ.ศ. 2517 2518 ทํางานเคลื่อนไหวอยู่แนวหลังแต่ต่อมาถูกสับเปลี่ยนให้ทํางานอยู่ห้องการขาวหนุ่มประชาชนปฏิวัติลาว แขวงจําปาสัก

– พ.ศ. 2518 – 2523 ทํางานอยู่ห้องว่าการปกครองแขวงจําปาสัก

– พ.ศ. 2524 – 2529 ทํางานอยู่ห้องว่าการศูนย์กลางพรรคประชาชนปฏิวัติลาว

– พ.ศ. 2533 2537 ทํางานอยู่ห้องว่าการศูนย์กลางพรรคประชาชนปฏิวัติลาว

– พ.ศ. 2537 2539 เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการสํานักนายกรัฐมนตรี

– พ.ศ. 2539 – 2544 ได้รับเลือกเป็นกรรมการศูนย์กลางพรรคประชาชนปฏิวัติลาว และเป็นหัวหน้าห้องว่าการศูนย์กลางพรรค

– พ.ศ. 2544 – 2546 เป็นกรรมการกรมการเมืองศูนย์กลางพรรค เป็นผู้ประจําการกรมการเมืองศูนย์กลางพรรคและหัวหน้าห้องว่าการศูนย์กลางพรรค

– พ.ศ. 2546 เป็นรองนายกรัฐมนตรี และผู้ประจําการรัฐบาล

– วันที่ 8 มิถุนายน พ.ศ.2549 ได้รับเลือกจากสภาแห่งชาติชุดที่ 6 ให้เป็นนายกรัฐมนตรีแห่ง สปป.ลาว

สรุปผลงานทางด้านการเมือง การปกครอง และเศรษฐกิจ

ตั้งแต่ได้ดํารงตําแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ทําให้สภาพการด้านการเมืองการปกครองและเศรษฐกิจของประเทศมีการ เปลี่ยนแปลงดีขึ้น เป็นต้น :

– ประเทศลาวมีเสถียรภาพทางด้านการเมือง

– สังคมมีความสงบ และเป็นระเบียบเรียบร้อยดีขึ้น

– บทบาทของรัฐบาล สปป.ลาว สูงขึ้นในเวทีสากล

– เศรษฐกิจของ สปป.ลาว มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จาก 5.5 % ในปี 2549 มาเป็น 7.5 % ในปี 2550

– อัตราเงินเฟ้อลดลงจาก 8.3 16 ในปี 2549 มาเป็น %,45ในปี 2550 – ค่าของเงินเก็บมีความมั่นคง รายได้เฉลี่ยต่อหัว เพิ่มขึ้นจาก 553 LIS$ ในปี 2549 มาเป็น 678 US$ ในปี 2550

– การค้าต่างประเทศเป็นดุลเป็นครั้งแรกในหลายสิบปีที่ผ่านมา

– การพัฒนาพื้นฐานโครงร่างเศรษฐกิจและวัฒนธรรมได้รับการเอาใจใส่อย่างเต็มที่

– การลงทุนของต่างประเทศในแขนงการผลิตและการบริการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

– การแก้ไขความทุกข์ยากของประชาชนได้บรรลุผลสําเร็จเป็นก้าวๆ

– การปกครองด้วยระเบียบกฎหมายได้รับการพัฒนาไปเคียงคู่กับการปรับปรุงการบริการรับใช้ประชาชนให้ดีขึ้น

เหรียญเกียรติคุณต่างๆ ที่ได้รับ :

– เหรียญชัยอิสระขั้น 2

– เหรียญชัยแรงงานชั้น 2

– เหรียญชัยอิสระชั้น 3

– เหรียญชัยแรงงานชั้น 3

ดูประวัติเพิ่มเติม : ฯพณฯ บัวสอน บุบผาวัน

สมเด็จฮุนเซน

สมเด็จฮุนเซน

ปริญญา : ปรัชญาดุษฏีบัณฑิตกิตติมศักดิ์สาขาการศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่น 

วัน/เดือน/ปี ที่ได้รับปริญญา : ๑๙ มกราคม ๒๕๔๙ 

วัน เดือน ปีเกิด : วันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2495

สถานที่เกิด : หมู่บ้านเปี่ยมคะนงค์ ตําบลเปี่ยมเกาะสนา อํานาอสดึงดร็อง จังหวัดกัมปงจาม

สถานภาพทางครอบครัว : ได้สมรสกับคุณหญิงบุน รานี มีบุตรชาย 3 คน และบุตรสาว 3 คน คือ (ในนี้มีหนึ่งคนเป็นบุตรบุญธรรม) (1) ฮุน มาเนด (2) ฮุน มานา (3) ฮุน มานิด (4) ฮุน มานี้ (5) ฮุน มาลี (6) ชุน มาลิส

ความรู้ภาษาต่างประเทศ : ภาษาเวียดนาม และเรียนภาษาอังกฤษด้วยตนเองจนมีความเข้าใจในระดับหนึ่งและเข้าใจภาษาไทยพอสมควร

ประวัติการศึกษา

– พ.ศ. 2508 จบการศึกษาในระดับประถมศึกษาจากโรงเรียนในจังหวัดกัมปงจาม 
– พ.ศ. 2508 – 2513 ศึกษาระดับมัธยมศึกษาที่โรงเรียนอินทราเทวี กรุงพนมเปญ แต่ไม่จบการศึกษา เนื่องจากได้เข้าร่วมสงครามต่อต้านรัฐบาลนายพลลอน นอล

ประวัติการทํางาน

– พ.ศ. 2513 – 2518 เข้าร่วมกองกําลังสมเด็จเจ้านโรดม สีหนุต่อสู้กับรัฐบาลนายพลลอน นอล

– พ.ศ. 2518 – 2520 รองผู้บังคับการกองพัน และผู้บังคับการกองกําลังสังกัดกองพลที่ 41 ภูมิภาค 203

– พ.ศ. 2520 – 2522 เริ่มงานต่อต้านรัฐบาลกัมพูชาประชาธิปไตย โดยร่วมมือกับขบวนการรักชาติกลุ่มอื่นๆ ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกและคณะกรรมการกลาง แนวร่วมสามัคคี ประชาชาติกัมพูชา ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อล้มล้างรัฐบาลเขมรแดง

– พ.ศ. 2522 2524 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ในรัฐบาลประชาชนปฏิวัติกัมพูชา ซึ่งถือว่าเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศที่มีอายุน้อยที่สุดในโลก (27 ปี)

– พ.ศ. 2524 – 2525 สมาชิกโปลิตบูโร ลําดับที่ 5 และสมาชิกสํานักงานเลขาธิการในการประชุมสมัชชาพรรคประชาชนปฏิวัติกัมพูชา

– มิถุนายน รองนายกรัฐมนตรี

– ธันวาคม สมาชิกแนวร่วมสามัคคีสร้างสรรค์และพิทักษ์มาตุภูมิกัมพูชา

– พ.ศ. 2525 – 2529 ประธานคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์ ประจําคณะกรรมการกลาง พรรคประชาชนปฏิวัติกัมพูชา

– มกราคม นายกรัฐมนตรี สืบแทนนายจัน ปี ซึ่งถึงแก่กรรม

– ตุลาคม สมาชิกโปลิตบูโร ลําดับที่ 2 และสมาชิกสํานักงานเลขาธิการพรรคในการประชุมสมัชชาพรรค ครั้งที่ 5

– พ.ศ. 2530 – 2533 ดํารงตําแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอีกตําแหน่งหนึ่ง

– พ.ศ. 2533 2534 สมาชิกสภาสูงสุดแห่งชาติ (Supreme National Council)

– พ.ศ. 2534 2536 รองประธานพรรคประชาชนกัมพูชา (CPP)

– พ.ศ. 2536 – 2541 นายกรัฐมนตรีคนที่ 2 ของรัฐบาลผสม 2 ฝ่ายซึ่งมีพรรคการเมือง 2 พรรค เข้าร่วมรัฐบาล

– พ.ศ. 2541 – ปัจจุบัน นายกรัฐมนตรีและสมาชิกสภาแห่งชาติกัมพูชา จังหวัดกําปงจาม

เกียรติประวัติ ฐานันดรศักดิ์ เหรียญและรางวัล

สมเด็จฮุน เซน ได้รับพระราชทานฐานันดรศักดิ์ให้เป็นสมเด็จฮุน เซน จากพระมหากษัตริย์ เจ้านโรดมสีหนุ

พ.ศ. 2534 ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ด้าน รัฐศาสตร์ จากบัณทิดสภาแห่งชาติ ณ กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม

พ.ศ. 2538 ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาการเมืองการปกครองมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ภาคใต้ ประเทศสหรัฐอเมริกา

พ.ศ. 2539 ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ทางด้านนิติศาสตร์จากมหาวิทยาลัย เวสลียัน (Weslesyan) รัฐโอไอโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา

ได้รับรางวัลสันติภาพโลกจากบัณฑิตสภาสันติภาพโลก (World Peace Academy) นับเป็นบุคคลที่ 6 ที่ได้รับรางวัลสันติภาพโลกและเป็นคนแรกของเอเชียตะวันออกเฉียงได้ในฐานะ 1) เป็นสมบัติทางวัฒนธรรม แห่งมนุษยชาติ 2) เป็นเอกอัครราชทูตสันถวไมตรีแสวงหาสันติ 3) เป็นสมาชิกสภาสันติภาพโลก

พ.ศ. 2544 ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาการปกครองจากมหาวิทยาลัย Pakook ณ กรุงเซูล ประเทศเกาหลีใต้ ในฐานะผู้สร้างสันติภาพ

ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจาก มหาวิทยาลัยรามคําแหง ประเทศไทย

สถาบันนานาชาติ “เสรัยเจินมอย” มอบเหรียญเกียรติยศ “หัวใจดวงเดียว” ให้สมเด็จฮุน เซน ในฐานะทําให้โลกมีหัวใจดวงเดียว เป็นผู้ช่วยเหลือประชาชนกัมพูชาหลายล้านคนให้มีโอกาสได้รับการศึกษา อาหาร ที่อยู่อาศัย สร้างโรงเรียน โรงพยาบาล และระบบชลประทานเป็นจํานวนมาก

พ.ศ. 2545 ได้รับเหรียญเกียรติยศจากบัณฑิตสภาวิทยาศาสตร์ธรรมชาติของสาธารณรัฐรัสเซีย

คณะกรรมาธิการของสหพันธ์วิศวกรรมแห่งอาเซียนมอบตําแหน่งวิศวกรกิตติมศักดิ์สูงสุด เนื่องจากเปิดโอกาสให้นิสิต นักศึกษา ปัญญาชนของชาติได้มีโอกาสเข้าร่วมก่อสร้างและพัฒนาประเทศชาติ

พ.ศ. 2547 ได้รับปริญญารัฐศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จาก Irish International University แห่งสหภาพยุโรป และได้รับเหรียญ Excellence 2004 มหาวิทยาลัยกัมพูชาได้มอบปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาการเมืองการปกครอง

พ.ศ. 2547 สมเด็จฮุน เซน ได้เป็นสมาชิกสมาคมทนายความกัมพูชา

พ.ศ. 2548 สถาบันนานาชาติ เสรัยเจินมอย ได้มอบเหรียญสันติภาพแด่สมเด็จฮุน เซน เพื่อแสดงถึงความสามารถในการยุติสงครามในกัมพูชา