สมเด็จฮุนเซน

สมเด็จฮุนเซน

ปริญญา : ปรัชญาดุษฏีบัณฑิตกิตติมศักดิ์สาขาการศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่น 

วัน/เดือน/ปี ที่ได้รับปริญญา : ๑๙ มกราคม ๒๕๔๙ 

วัน เดือน ปีเกิด : วันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2495

สถานที่เกิด : หมู่บ้านเปี่ยมคะนงค์ ตําบลเปี่ยมเกาะสนา อํานาอสดึงดร็อง จังหวัดกัมปงจาม

สถานภาพทางครอบครัว : ได้สมรสกับคุณหญิงบุน รานี มีบุตรชาย 3 คน และบุตรสาว 3 คน คือ (ในนี้มีหนึ่งคนเป็นบุตรบุญธรรม) (1) ฮุน มาเนด (2) ฮุน มานา (3) ฮุน มานิด (4) ฮุน มานี้ (5) ฮุน มาลี (6) ชุน มาลิส

ความรู้ภาษาต่างประเทศ : ภาษาเวียดนาม และเรียนภาษาอังกฤษด้วยตนเองจนมีความเข้าใจในระดับหนึ่งและเข้าใจภาษาไทยพอสมควร

ประวัติการศึกษา

– พ.ศ. 2508 จบการศึกษาในระดับประถมศึกษาจากโรงเรียนในจังหวัดกัมปงจาม 
– พ.ศ. 2508 – 2513 ศึกษาระดับมัธยมศึกษาที่โรงเรียนอินทราเทวี กรุงพนมเปญ แต่ไม่จบการศึกษา เนื่องจากได้เข้าร่วมสงครามต่อต้านรัฐบาลนายพลลอน นอล

ประวัติการทํางาน

– พ.ศ. 2513 – 2518 เข้าร่วมกองกําลังสมเด็จเจ้านโรดม สีหนุต่อสู้กับรัฐบาลนายพลลอน นอล

– พ.ศ. 2518 – 2520 รองผู้บังคับการกองพัน และผู้บังคับการกองกําลังสังกัดกองพลที่ 41 ภูมิภาค 203

– พ.ศ. 2520 – 2522 เริ่มงานต่อต้านรัฐบาลกัมพูชาประชาธิปไตย โดยร่วมมือกับขบวนการรักชาติกลุ่มอื่นๆ ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกและคณะกรรมการกลาง แนวร่วมสามัคคี ประชาชาติกัมพูชา ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อล้มล้างรัฐบาลเขมรแดง

– พ.ศ. 2522 2524 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ในรัฐบาลประชาชนปฏิวัติกัมพูชา ซึ่งถือว่าเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศที่มีอายุน้อยที่สุดในโลก (27 ปี)

– พ.ศ. 2524 – 2525 สมาชิกโปลิตบูโร ลําดับที่ 5 และสมาชิกสํานักงานเลขาธิการในการประชุมสมัชชาพรรคประชาชนปฏิวัติกัมพูชา

– มิถุนายน รองนายกรัฐมนตรี

– ธันวาคม สมาชิกแนวร่วมสามัคคีสร้างสรรค์และพิทักษ์มาตุภูมิกัมพูชา

– พ.ศ. 2525 – 2529 ประธานคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์ ประจําคณะกรรมการกลาง พรรคประชาชนปฏิวัติกัมพูชา

– มกราคม นายกรัฐมนตรี สืบแทนนายจัน ปี ซึ่งถึงแก่กรรม

– ตุลาคม สมาชิกโปลิตบูโร ลําดับที่ 2 และสมาชิกสํานักงานเลขาธิการพรรคในการประชุมสมัชชาพรรค ครั้งที่ 5

– พ.ศ. 2530 – 2533 ดํารงตําแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอีกตําแหน่งหนึ่ง

– พ.ศ. 2533 2534 สมาชิกสภาสูงสุดแห่งชาติ (Supreme National Council)

– พ.ศ. 2534 2536 รองประธานพรรคประชาชนกัมพูชา (CPP)

– พ.ศ. 2536 – 2541 นายกรัฐมนตรีคนที่ 2 ของรัฐบาลผสม 2 ฝ่ายซึ่งมีพรรคการเมือง 2 พรรค เข้าร่วมรัฐบาล

– พ.ศ. 2541 – ปัจจุบัน นายกรัฐมนตรีและสมาชิกสภาแห่งชาติกัมพูชา จังหวัดกําปงจาม

เกียรติประวัติ ฐานันดรศักดิ์ เหรียญและรางวัล

สมเด็จฮุน เซน ได้รับพระราชทานฐานันดรศักดิ์ให้เป็นสมเด็จฮุน เซน จากพระมหากษัตริย์ เจ้านโรดมสีหนุ

พ.ศ. 2534 ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ด้าน รัฐศาสตร์ จากบัณทิดสภาแห่งชาติ ณ กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม

พ.ศ. 2538 ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาการเมืองการปกครองมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ภาคใต้ ประเทศสหรัฐอเมริกา

พ.ศ. 2539 ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ทางด้านนิติศาสตร์จากมหาวิทยาลัย เวสลียัน (Weslesyan) รัฐโอไอโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา

ได้รับรางวัลสันติภาพโลกจากบัณฑิตสภาสันติภาพโลก (World Peace Academy) นับเป็นบุคคลที่ 6 ที่ได้รับรางวัลสันติภาพโลกและเป็นคนแรกของเอเชียตะวันออกเฉียงได้ในฐานะ 1) เป็นสมบัติทางวัฒนธรรม แห่งมนุษยชาติ 2) เป็นเอกอัครราชทูตสันถวไมตรีแสวงหาสันติ 3) เป็นสมาชิกสภาสันติภาพโลก

พ.ศ. 2544 ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาการปกครองจากมหาวิทยาลัย Pakook ณ กรุงเซูล ประเทศเกาหลีใต้ ในฐานะผู้สร้างสันติภาพ

ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจาก มหาวิทยาลัยรามคําแหง ประเทศไทย

สถาบันนานาชาติ “เสรัยเจินมอย” มอบเหรียญเกียรติยศ “หัวใจดวงเดียว” ให้สมเด็จฮุน เซน ในฐานะทําให้โลกมีหัวใจดวงเดียว เป็นผู้ช่วยเหลือประชาชนกัมพูชาหลายล้านคนให้มีโอกาสได้รับการศึกษา อาหาร ที่อยู่อาศัย สร้างโรงเรียน โรงพยาบาล และระบบชลประทานเป็นจํานวนมาก

พ.ศ. 2545 ได้รับเหรียญเกียรติยศจากบัณฑิตสภาวิทยาศาสตร์ธรรมชาติของสาธารณรัฐรัสเซีย

คณะกรรมาธิการของสหพันธ์วิศวกรรมแห่งอาเซียนมอบตําแหน่งวิศวกรกิตติมศักดิ์สูงสุด เนื่องจากเปิดโอกาสให้นิสิต นักศึกษา ปัญญาชนของชาติได้มีโอกาสเข้าร่วมก่อสร้างและพัฒนาประเทศชาติ

พ.ศ. 2547 ได้รับปริญญารัฐศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จาก Irish International University แห่งสหภาพยุโรป และได้รับเหรียญ Excellence 2004 มหาวิทยาลัยกัมพูชาได้มอบปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาการเมืองการปกครอง

พ.ศ. 2547 สมเด็จฮุน เซน ได้เป็นสมาชิกสมาคมทนายความกัมพูชา

พ.ศ. 2548 สถาบันนานาชาติ เสรัยเจินมอย ได้มอบเหรียญสันติภาพแด่สมเด็จฮุน เซน เพื่อแสดงถึงความสามารถในการยุติสงครามในกัมพูชา