ประวัติ คุณไพโรจน์ เปี่ยมพงษ์สานต์
• กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทบ้านฉางกรุ๊ป จำกัด
• วุฒิสมาชิกปี 2535 ถึงปัจจุบัน
ประวัติส่วนตัว
• สมรสกับคุณพิไลวรรณ เชิดธรณินทร์
• มีธิดา 1 คน ชื่อ ด.ญ. ธัญชนกเปี่ยม พงษ์สานต์ (ป. 5 สาธิต มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์)
นักธุรกิจหนุ่มหล่อรูปร่างสูงใหญ่เรียนจบทางด้านวิชาชีพครูวัยเพียง 39 ผู้นี้ คือคุณไพโรจน์ เปี่ยมพงษ์สานต์ กรรมการสามารถประกอบอาชีพธุรกิจได้ประสบความสำเร็จอย่างสูงด้วยผู้จัดการใหญ่ บริษัท บ้านฉางกรุ๊ป จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจ 2516 อสังหาริมทรัพย์และกิจการอื่นอีกหลายอย่าง“ ผมเข้าเรียนบ้านสมเด็จเจ้าพระยาในชั้นป. กศ. ต้นเมื่อปีชีวิตวัยเด็กผมเกิดในหมู่บ้านประมงคุณพ่อมีอาชีพเป็นชาวประมงทำสวนทำไร่และบ้านเกิดอยู่จังหวัดระยองบ้านเลขที่ 45/5 ตำบลพลาอำเภอบ้านฉางจังหวัดระยองจบการศึกษาขั้นต้นที่โรงเรียนบ้านพลาและจบมัธยมศึกษาที่โรงเรียนระยองพิทยาคมเมื่อจบแล้วได้เข้ามาอยู่กรุงเทพฯเมื่อ พ.ศ. 2515 โดยมาอาศัยอยู่ที่วัดบรมนิวาสเพราะระยะนั้นต้องกวดวิชาเพื่อมุ่งที่จะเข้าเรียนวิทยาลัยครูให้ได้พระที่ผมมาอาศัยอยู่ท่านเดี๋ยวนี้ท่านคือท่านเจ้าคุณธรรมดิลกซึ่งปัจจุบันท่านเป็นเจ้าคณะเชียงใหม่ผมได้พบท่านโดยบังเอิญเมื่อคราวที่ผมมีโอกาสไปบูรณะหลักเมืองเชียงใหม่“ ผมมีความตั้งใจจะเข้าเรียนวิทยาลัยครูบ้านสมเด็จเจ้าพระยาเป็นอย่างยิ่งเพราะคิดว่าเมื่อเรียนจบแล้วจะสามารถทำงานช่วยคุณพ่อคุณแม่และน้องๆได้ซึ่งขณะนั้นขัดกับความคิดของคุณพ่อมากเพราะคุณพ่ออยากให้เรียนเตรียมทหารตอนนั้นเคยคิดว่าจะเป็นนักธุรกิจเลยแม้แต่น้อยแรงจูงใจอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้อยากเรียนครูโดยเฉพาะที่บ้านสมเด็จเจ้าพระยาคือมีญาติมาเรียนอยู่คือคุณนิวัฒน์นาคทองซึ่งที่พักอยู่หลังวัดชิโนรส แต่ก็ไม่ได้ไปพักด้วยอาศัยหลวงพ่อที่วัดบรมนิวาสสบายใจกว่าปัจจุบันคุณนิวัฒน์นาคทองเป็นอำนวยการโรงเรียนบ้านฉาง“ สมัยที่ผมเรียนที่บ้านสมเด็จฯ ชอบอ่านหนังสือมักชอบเรียนด้วยตัวเองและชอบเรียนวิชาคณิตศาสตร์วิทยาศาสตร์มากกว่าทางด้านภาษาเป็นลูกศิษย์คนโปรดของอาจารย์แสงแสงสิงหศักดิ์ถ้าวันไหนอาจารย์แสงไม่ว่างติดธุระจะบอกว่า“ ไพโรจน์สอนเพื่อน ๆ ให้ด้วย” เดี๋ยวนี้อาจารย์ที่สอนสมัยนั้นอาจารย์อำพันพงศ์ไพฑูรย์สอนศิลปะและอาจารย์ชนิดาได้ 3 ท่านคืออาจารย์แสงแสงสิงหศักดิ์สอนคณิตศาสตร์สุวรรณรัตน์สอนภาษาไทย“
ส่วนความประทับใจเมื่อเรียนที่บ้านสมเด็จฯ นั้นประทับใจ พื่อนมากเพราะมีเพื่อนดีมีความจริงใจต่อกันสูงมากและอยากพบเพื่อน ๆ ที่เรียนรุ่นเดียวกันที่นี่มากอีกอย่างหนึ่งคือการไปฝึกสอนที่โรงเรียนวัดเกาะซึ่งอยู่ใกล้วัดปากน้ำภาษีเจริญสมัยนั้นต้องนั่งเรือไปประทับใจอาจารย์นิเทศชื่อนฤมลแต่ว่านามสกุลไม่ได้เมื่อได้สอนเด็กได้สัมผัสกับประสบการณ์จริงในการฝึกสอนชอบมากและจำได้ว่าเป็นช่วงชีวิตที่มีความสุขที่สุดนอกจากนี้ความประทับใจที่มิอาจลืมเลือนได้ก็คือการที่ได้เป็นนักกีฬาฟุตบอลของวิทยาลัยในตำแหน่งผู้รักษาประตูและเซ็นเตอร์ได้เป็นตัวแทนไปแข่งกับวิทยาลัยต่างจังหวัดหลายแห่งเป็นคนที่ชอบกีฬาเวลาเรียนถ้าเบื่อ ๆ ก็จะออกมานั่งริมสนามฟุตบอลเมื่อผมเรียนจบศ. ต้นที่แล้วได้เป็นตัวแทนของบ้านสมเด็จฯ ไปสอบชิงทุนเข้าเรียนต่อป. กศ. สูง (อุตสาหกรรมศิลป์) ที่วิทยาลัยครูพระนครกับเพื่อนอีก 1 คนในชั้นเดียวกันชื่ออดิศรและสอบได้เข้าเรียนต่อทั้ง 2 คนเรียนจนจบป. กศ. สูงที่นั่นหลังจากแล้วได้ไปรับราชการครูอยู่ที่โรงเรียนระยองวิทยาคมอยู่ระยะหนึ่งโดยสอนช่างยนต์ช่างไฟฟ้าช่างโลหะ ฯลฯ หลังจากนั้นก็เดินทางไปอังกฤษเพื่อจะเรียนต่อ แต่บังเอิญไปพบเพื่อนที่นั่นชวนทำงาน บริษัท โรงงานประกอบรถยนต์ซึ่งมีรายได้ดีมากคิดว่าถ้าเรียนจบแล้วทำงานก็ยังไม่ได้เงินมากเท่านี้จึงทำงานและฝึกหัดงานอยู่ 1 ปีจึงถูกส่งไปทำงานที่ตะวันออกกลางช่วงนั้นเมืองไทยมีวิกฤตเรื่องอู่ตะเภาและมีคนว่างงานมากประกอบกับตะวันออกกลางต้องการคนงานจึงติดต่อคนไปทำงานในตะวันออกกลางถึงหมื่นคนสมัยนั้นมีเพื่อนที่ทำงานด้วยกันคือคุณประจวบไชยสาส์นและได้ทำงานจุดนี้อยู่ 4-5 ปีคุณประมาณอดิเรกสารสมัยนั้นท่านเป็นรองนายกฯ เรียกกลับมาใช้งานจึงกลับมาเมืองไทยดังนั้นจึงถือว่าการติดต่อคนงานไปทำงานก่อสร้างในตะวันออกกลางนั้นเป็นการประกอบธุรกิจครั้งแรกซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จมากทีเดียวต่อมาก็ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างหนึ่งอีกคือการจัดตั้ง บริษัท ที่ปรึกษาด้านการลงทุนที่เกี่ยวกับการเงินระยะนี้วิถีชีวิตเริ่มเปลี่ยนเข้าไปพัวพันกับธุรกิจมากขึ้นงานแรกเมื่อหันมาด้านนี้คือเสนอการตั้งธนาคารเพื่อการลงทุนสมัยนั้นรัฐบาลไม่มีกฎหมายรับรองจัดตั้ง บริษัท ในประเทศไทยไม่ได้ขณะนั้นเศรษฐกิจแถบนี้มีปัญหาและเรื่องการขาดดุลกับญี่ปุ่นจึงพยายามระดมทุนจากมหาเศรษฐีน้ำมันจากตะวันออกกลางและผมเป็นคนแรกที่ชักชวนชาวตะวันออกกลางเข้ามาลงทุนในประเทศไทย แต่ขณะนั้นตั้ง บริษัท ไม่ได้จึงไปจัดตั้ง บริษัท การงทุนนี้ที่ประเทศมาเลเซียโดยร่วมหุ้นกับเซคชาเล่ย์
ซึ่งเคยเป็นเจ้านายเก่าสมัยทำงานที่ตะวันออกกลางบุคคลผู้นี้เป็นคนฉลาดมากและเป็นคนสำคัญที่สร้างเศรษฐกิจให้ตะวันออกกลางทำงานอยู่กับท่าน 5 ปีได้ประสบการณ์มากมายและได้บินไปทั่วโลกช่วงนี้ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงสำคัญของชีวิตที่ได้มีโอกาสสัมผัสกับการลงทุนทั่วโลกถึง 21 ประเทศและสามารถสร้างงานให้คนไทยเป็นจำนวนมากในปี พ.ศ. 2529 รัฐบาลได้เริ่มนำนโยบายการพัฒนาพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออกคุณไพโรจน์จึงได้เริ่มทำโครงการพัฒนาอำเภอบ้านฉางจังหวัดระยองโดยได้ดำเนินการก่อตั้ง บริษัท บ้านฉางกรุ๊ปเมื่อปี 2530 โดยมีทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาทในขณะนั้นโดยมีความตั้งใจว่าจะดำเนินธุรกิจเป็น บริษัท ธุรกิจพัฒนาที่ดินเพื่อพัฒนาชนบทปัจจุบัน บริษัท บ้านฉางกรุ๊ปประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีขณะนี้ได้นำ บริษัท เข้าไประดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ทำให้ บริษัท มีความเป็น บริษัท มหาชนอย่างสมบูรณ์โดยมีทุนจดทะเบียนที่เรียกชำระแล้ว 798 ล้านบาทนอกจากนี้คุณไพโรจน์ได้ทำงานอย่างทุ่มเทและต่อเนื่องจนทำให้ธุรกิจเติบโตและเจริญก้าวหน้าไปจนเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในวงการธุรกิจว่าเป็นนักธุรกิจหนุ่มที่มีสายตากว้างไกลและมีจุดยืนที่แน่นอนว่าจะดำเนินการกระจายความเจริญไปยังชนบทเพื่อให้ชนบทเติบโตไม่มาเจริญแออัดกันอยู่ในเมืองหลวง“ การที่ผมประสบความสำเร็จในด้านนี้นั้นมีผลเนื่องมาจากที่ผมได้เรียนวิชาชีพครูความเป็นครูทำให้มีจิตวิทยาในการทำงานมีน้ำใจสุภาพสุขุมสามารถเข้าใจคนและสิ่งสำคัญที่สุดคือมีคุณธรรมปัจจุบันพยายามจะสร้าง Concept ให้นักธุรกิจทั้งหลายหันมาสนใจในการพัฒนาการศึกษาในชนบทในท้องถิ่นคือช่วยกันกระจายการศึกษาให้เข้าถึงท้องถิ่นให้มากจะทำให้คนฉลาดขึ้นและมีคุณธรรมมากขึ้นการพัฒนาประเทศนั้นต้องพัฒนาการศึกษาและการพัฒนาการศึกษาต้องพัฒนาครูเพราะครูเป็นผู้ประสานระหว่างรัฐกับประชาชนดังนั้นทุกวันนี้จึงมีเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจว่า“ อยากเห็นนักธุรกิจท้องถิ่นเข้ามามีบทบาททางการศึกษาให้มากเพื่อชาวชนบทจะได้พึ่งตนเองได้ไม่ต้องพึ่งพาอาศัยส่วนกลางถ้านักธุรกิจมีคุณธรรมช่วยกันพัฒนาท้องถิ่นให้เขาช่วยตนเองได้โดยส่วนรวมประเทศชาติของเราจะเจริญก้าวหน้ากว่านี้มาก“ ขณะนี้ผมตั้งงบประมาณในด้านการศึกษาไว้ประมาณ 10 ล้านบาทต่อปีโดยดำเนินการตั้งโรงเรียนนานาชาติเริ่มสอน ตั้งแต่ระดับเด็กเล็กประถมศึกษาซึ่งจะช่วยลดภาระด้านนี้แก่และ NIDA ในระดับปริญญาตรีและปริญญาโทรัฐบาลในด้านการลงทุนทางการศึกษาและได้ติดต่อกับ ABAC คุณไพโรจน์เปี่ยมพงษ์สานต์ได้ให้แนวคิดในการบริหารพยายามสร้างทีมงานให้ได้โดยการถ่ายทอดความรู้ให้กับเขางานบุคคลว่า“ การบริหารที่ดีนั้นต้องให้โอกาสแก่ลูกน้องและเพราะเราจะได้ไม่เหนื่อยผมมักจะชี้แจงให้ลูกน้องเข้าใจเสมอว่า บริษัท บ้านฉางนั้นมีความต้องการจะสร้างความเจริญให้แก่ส่วนภูมิภาคอยากเห็นชนบทเจริญและต้องเข้าใจลูกน้องว่าแต่ละคนชอบงานอะไรครอบครัวเป็นอย่างไรถ้ายังไม่มีห่วงไม่มีครอบครัวสามารถลุยงานหนักในต่างจังหวัดได้ถ้าทำงานได้มากก็ได้เงินพิเศษมากตัวผมเองทำงานหนักเพื่อเป็นตัวอย่างให้เขาเห็นด้วยว่าขนาดเรายังทำงานหนักทำงานวันละ 18 ชั่วโมงมากกว่าคนอื่น 2 เท่าตัวจึงได้รับความร่วมมือจากทีมงานเป็นอย่างดีปรัชญาในการดำเนินชีวิต“ ทำดีต้องได้ดีและเชื่อเรื่องเวรกรรม
สิ่งที่ยึดเป็นกำลังใจในการทำงานคือพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานว่าพัฒนาชนบทต้องอดทนและเสียสละ” และจะพยายามทำให้ดีที่สุดต่อไป
อ้างอิง : หนังสือศรีสมเด็จ 37 หน้า 85-86